ข้อมูลนักเตะ
ในอดีตที่ผ่านมาของประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลระดับโลก มียอดนักเตะชาวเอเชียที่เดินทางไปค้าแข้งในดินแดนยุโรปและฝากผลงานจนกลายเป็นที่จดจำหลายคนแต่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุคปัจจุบันคงไม่มีใครโดดเด่นเกินไปกว่าซูเปอร์สตาร์แห่งแดนโสมที่ชาวเกาหลีใต้ภาคภูมิใจอย่าง ซน ฮึงมิน หลังจากโชว์ฟอร์มการถล่มประตูอย่างร้อนแรงในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2021-2022 ซน ฮึงมิน ซัดไปได้ 2 ลูก ในนัดสุดท้ายของการแข่งขัน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดของการแข่งขันที่ 23 ลูก เทียบเท่ากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าตัวฉกาจชาวอียิปต์จากสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งความสุดยอดของซนในรางวัลนี้คือทั้ง 23 ประตูที่เขายิงได้ ไม่มีลูกไหนที่มาจากจุดโทษเลยจึงทำให้เขากลายเป็นนักเตะจากเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัลดาวซัลโว แน่นอนว่าชาวเกาหลีต่างภาคภูมิใจกับเกียรติยศในครั้งนี้ของ ซน ฮึงมิน
Thaivwin เว็บไซต์วิเคราะห์บอลแม่น , ทายผล , อัตราต่อรอง ,ทุกลีกกีฬา ชั้นนำทั่วโลก ให้คุณอัพเดตก่อนใคร
ข่าวแนะนำ
ซน ฮึงมิน นักเตะชาวเกาหลีใต้ เป็นลูกชายของ ซน วูง-จัง ที่มีดีกรีเป็นอดีตนักฟุตบอลที่ค้าแข้งในช่วงยุค 80s ผ่านการค้าแข้งให้กับหลายสโมสรในเกาหลีใต้รวมถึงเคยติดทีมชาติเกาหลีใต้ชุดบีอีกด้วย เมื่อเขามีลูกชายซนผู้พ่อจึงตั้งตนเป็นอาจารย์คนแรกสอนวิชาฟุตบอลให้กับลูกชายด้วยประสบการณ์ที่เปี่ยมล้นในฐานะอดีตกองหน้าควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมที่เข้มข้นตามแบบฉบับเกาหลีใต้ โดย ซน เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังด้วยการเข้าสู่อคาเดมี่ของสโมสร เอฟซี โซล ก่อนจะได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของสโมสร ฮัมบูร์ก สโมสรดังของเยอรมนี ตอนอายุ 16 ปี ผ่านโปรเจคต์ Korean FA Youth Project ซึ่งเป็นโครงการที่สมาคมลูกหนังเกาหลีใต้สนับสนุนดาวรุ่งฝีเท้าดีให้ออกไปเรียนและฝึกทักษะลูกหนังกับสโมสรชั้นนำของยุโรป ซน ฮึงมิน เขาพัฒนาฝีเท้ากับทางทีมฮัมบูร์กอย่างโดดเด่นฉายแววความร้ายกาจและแน่นอนว่าในเวลาต่อมาเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกตั้งแต่อายุ 18 ปี พร้อมกับได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของฮัมบูร์กทันที ก่อนจะยิงประตูแรกได้ในเกมที่พบกับ โคโลญจน์ ในวันที่ 30 ต.ค. 2010 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของฮัมบูร์กที่ยิงประตูในบุนเดสลีกาได้ด้วยวัยเพียง 18 ปี 3 เดือน 22 วัน ต่อมาเขาได้รับโอกาสลงสนามเป็นระยะและค่อยๆ ทำผลงานจนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของฮัมบูร์กที่ทีมขาดไม่ได้ โดยเฉพาะฤดูกาล 2012-2013 เขาครองตำแหน่งดาวซัลโวประจำทีมหลังจากซัดไปถึง 12 ประตู ทำให้ทางด้าน เลเวอร์คูเซ่น เข้ามาทาบทามตัว ซน ไปร่วมทีมในฤดูกาลถัดมา คว้าตัวไปได้สำเร็จด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร นับว่าเป็นสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรในเวลานั้น
ภายใต้เสื้อ เลเวอร์คูเซ่น ซนยังคงเก็บสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยซัดไป 29 ลูกจาก 87 นัดในทุกรายการ ก่อนจะถูกดึงตัวมาล่าตาข่ายในพรีเมียร์ลีกกับ “ไก่เดือยทอง” ทอตนัมฮอตสเปอร์ส เมื่อเดือนสิงหาคม 2015 ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร และกลายเป็นนักเตะเอเชียที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
ในฤดูกาลแรกกับสเปอร์สนำทัพโดยกุนซือ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ มีแผงแนวรุกตัวจริงอย่าง แฮร์รี่ เคน, เอริค ลาเมล่า, เดเล่ อัลลี่ และ คริสเตียน อีริคเซ่น ทำให้ ซน รับบทซูเปอร์ซับเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ซัดไป 8 ลูกในทุกรายการของฤดูกาล 2015-2016
ในฤดูกาลต่อมา ซน ปรับตัวและยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น ก่อนที่จะจบฤดูกาล 2016-2017 ด้วยผลงานกระหน่ำไปถึง 21 ประตูจากทุกรายการ
หลังจากนั้นเขาก็โชว์ฟอร์มให้กับสเปอร์สได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เก็บสกอร์อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมมาโดยตลอด การันตีได้จากการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสเปอร์สมา 2 ฤดูกาลติดต่อกันในฤดูกาล 2018-2019, 2019-2020
ซน ฮึงมิน ลงเล่นให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่นัดแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2010 ในขณะที่เจ้าตัวเพิ่งอายุ 18 ปีเท่านั้น และมีชื่อติดเป็นหนึ่งในขุนพลโสมขาวมาตลอดนับตั้งแต่นั้นมาเขามีส่วนร่วมกับฟุตบอลทัวร์เมนต์ใหญ่กับเกาหลีใต้ทั้ง ฟุตบอลโลกที่บราซิล 2014, ฟุตบอลโลกที่รัสเซีย 2018 นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในนักเตะโควต้าอายุเกินที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดโอลิมปิกไปลุยศึกลูกหนัง โอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ซน ยิงไปได้ 2 ประตูในรอบแรกช่วยให้เกาหลีใต้คว้าแชมป์กลุ่มก่อนจะไปตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังพ่ายต่อฮอนดูรัส 0-1 ส่วนอีกหนึ่งผลงานในทีมชาติของเขา คือ การคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ด้วยการเอาชนะ ญี่ปุ่น 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมรอบชิงชนะเลิศ
สเปอร์ส :
ทีมชาติเกาหลีใต้ :
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจที่นี่ คลิก